วันพฤหัสบดีที่ 4 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

ผลไม้กับการลดน้ำหนัก



ผลไม้ กับการลดน้ำหนัก การกินผลไม้ให้มากเป็นวิธีการลดน้ำหนักที่ได้ผลดี เพราะร่างกายยังได้รับสารอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุ อย่างพอเพียงจากผลไม้ที่กินได้มากเท่าที่ต้องการ ร่างกายยังแข็งแรง ขณะที่น้ำหนักตัวลดลงได้ดังปรารถนา ในคนอ้วน กระเพาะอาหารได้ถูกกระตุ้นจนติดนิสัยชอบหลั่งน้ำย่อย ทำให้รู้สึกหิวบ่อย ๆทว่าแม้จะกิจจุ ร่างกายกลับยังคงขาดแร่ธาตุและวิตามินที่จำเป็นอยู่ ทำให้เกิดแรงกระตุ้นอยากกิน การลดนำน้ำหนักด้วยการควบคุมอาหารเป็นการหักหาญร่างกาย ซึ่งนอกจากจะไม่สำเร็จถาวรแล้ว ยังทำให้เครียด สุขภาพจิตเสียเอาได้ตรงกันข้าม การหันมากินผลไม้เป็นหลัก ไม่แตกหักกับระบบย่อยอาหารที่นิสัยเสียอยู่แล้วในทันที ผลไม้ยังช่วยให้ระบบร่างกายอื่น ๆ สามารถทำงานได้สมบูรณ์มากขึ้นอีก ผลรวมที่เกิดจึงเป็นน้ำหนักลด แต่จิตใจสดชื่น อารมณ์ดี แถมร่างกายแข็งแรงยิ่งขึ้นอีก ผลไม้นอกจากให้วิตามินและแร่ธาตุอย่างอุดมแล้ง ยังมีเส้นไยที่ช่วยให้หนักท้อง และเป็นผลดีต่อการทำงานของลำไส้ ยิ่งกว่านั้นเส้นใยจากผลไม้ยังช่วยขับพิษ (toxin) และสารตกค้างสะสมที่ผนังลำไส้ออกไปได้อีกด้วย สิ่งตกค้างเหล่านี้หากไม่ถูกขับออก จะส่งผลให้ลำไส้ดูดซึมสารอาหารได้ช้าลง ทำให้รู้สึกอ่อนเพลียและเหนื่อยง่าย
การกินผลไม้ให้ได้สมประโยชน์และช่วยลดน้ำหนักนั้น ต้องรู้จักกินด้วย โดยทั่วไปเรามักติดนิสัยกินผลไม้หลังอาหารเพื่อล้างปาก อันเป็นส่วนหนึ่งของธรรมเนียมของหวานและผลไม้หลังอาหาร นี่เป็นกินผลไม้พอเป็นพิธีที่มักมิได้ปริมาณและไม่สมประโยชน์ เพราะกินผิดเวลา หลักการกินผลไม้ที่ถูกต้อง ท่านว่าควรกินในเวลาท้องว่างจึงจะดี ผลไม้เป็นอาหารที่ย่อยง่ายที่สุด อยู่ในกระเพาะชั่วเวลาสั้น ๆ เพียง 30 นาทีก็ผ่านต่อไปถึงลำไส้เพื่อดูดซึมสารอาหารได้แล้ว เหตุที่ผลไม้เป็นอาหารที่ย่อยง่ายก็เพราะสารอาหารเหล่านนี้ที่ดำรงอยู่ในผลไม้อยู่ในสภาพที่ย่อยมาแล้ว จึงแทบไม่ต้องเสียเวลาย่อยในกระเพาะอีก เนื่องจากการย่อยอาหารเป็นระบบร่างกายที่ใช้พลังงานมากที่สุด ดังนั้นการกินผลไม้ให้ได้ประโยชน์ สมคุณค่า ประหยัดพลังงาน และช่วยล้างพิษ (toxin) จึงเป็นการกินในขณะท้องว่าง หากินพร้อมหรือหลังอาหารอื่นทันที ผลไม้จะถูกกักอยู่กับอาหารอื่น ๆ ที่กระเพาะเมื่อต้องรอนาน น้ำตาลและแป้งในผลไม้ที่ผสมปนเปกับอาหารอื่น ๆ อาจเกิดบูดเสีย (ferment) ขึ้นในกระเพาะ ทำให้ท้องไส้ปั่นป่วน ไม่สบายได้ แม้อาการท้องไม่สาบจะมิได้เกิดขึ้นกับทุกคนโดยเสมอหน้า เพราะกระเพาะอาหารของบางคนอาจปรับตัวได้ดี แต่กระนั้น หลักการกินผลไม้เมื่อท้องว่าก็ยังถูกต้องเมื่อสารอาหารในผลไม้ย่อยง่ายหรืออยู่ในสภาพที่ร่างกายจะใช้ได้โดยตรงแล้ว ผลไม้ก็ควรผ่านกระเพาะไปสู่ลำไส้ให้เร็วที่สุด ส่วนหลักปฏิบัติที่ให้กินยามท้องว่างนี้ ผู้รู้บางคนแนะนำควรเป็นประมาณอย่างน้อย 30 นาที ก่อนหรือหลังอาหารอื่น ในหมู่นักผลไม้นิยม ต่างเห็นสอดคล้องกันว่าช่วงเวลาที่เหมาะสมสำหรับการกินผลไม้ที่สุด คือ ช่วงเช้า กินผลไม้เป็นอาหารเช้า ไม่จะกินสด ๆ ทั้งผล หรือดื่มเป็นน้ำผลไม้คั้นเพราะนี่คือช่วงเวลาที่ท้องจะว่างอย่างแน่นอน ตั้งแต่เช้าไปยันเที่ยง คุณจะกินผลไม้กี่มื้อก็ได้ถ้ารู้สึกหิว อาหารเช้าเป็นผลไม้นี่ยังมีข้อดีตรงที่ร่างกายสามารถประหยัดพลังงานได้มากเพราะผลไม้แทบไม่ต้องเสียเวลาย่อยในกระเพาะอาหาร อย่าลืมว่าการย่อยต้องใช้พลังงานมาก พลังงานที่ประหยัดได้ทำให้ร่างกายสามารถนำไปใช้สร้างเนื้อเยื่อ ขับของเสีย และทีสำคัญก็คือ ทำให้คน ๆ นั้นมีพลังทำงานอย่างสดชื่นไปได้ตลอดตั้งแต่เช้า หลักพื้นฐานของการกินผลไม้อีกข้อหนึ่งหนึ่งก็คือ กินผลไม้สดจึงจะได้สมประโยชน์ ผลไม้ที่ถูกความร้อนทำให้สุกหรือผลไม้ที่ถูกแปรรูป เช่น ผลไม้กระป๋อง แยม ผลไม้เชื่อมดองจะสูญเสียวิตามินและแร่ธาตุไปมาก ยิ่งผลไม้กระป๋องด้วยแล้วยิ่งไม่สมควร เพราะนอกจากคุณค่าน้อย ยังราคาแพงอีกเมื่อถูกความร้อน วิตามินในผลไม้จะถูกทำลายไปโดยง่าย อย่างวิตามินซีและบียิ่งสูญเสียง่าย เพราะละลายกับน้ำได้ดี สิ่งที่ควรรู้อีกประการหนึ่งก็คือ คุณค่าของผลไม้จะสูงสุดเมื่อสุกคาต้น ธุรกิจการค้าผลไม้ที่เก็บเกี่ยวผลเมื่อแก่แต่ไม่สุก เพื่อสะดวกต่อการขนส่ง และการบ่มให้สุกเพื่อขาย แม้จะทำให้ตลาดผลไม้กว้างใหญ่ขึ้น แต่ก็ต้องเสียสละคุณค่าทางโภชนาการไปไม่น้อย ในทางปฏิบัติเราจึงควรกินผลไม่ท้องถิ่น ผลไม้ตามฤดูกาล และหากถ้าเลือกได้ ควรซื้อผลไม้ที่ปลูกตามสภาพธรรมชาติ และสุขคาต้น ซื้อผลไม้จากแม่ค้าพ่อค้าข้างทางและในตลาดสด ผลไม้ในซุปเปอร์มาร์เกตควรเป็นทางเลือกสุดท้าย หากพิจารณาในราคาและความสดของสินค้า

ที่มา: www.bgirlclub.com/diet/อาหาร-ลดน้ำหนัก-อ้วน-glycemic
www.oknation.net/blog/diamond/2009/10/01/entry-1
www.onlines-product.com/index.php?lay=show&ac...Id...

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น